ข่าว/ เตือนโรคฉี่หนู 29 ก.ย. 53
ภาพ/ กมลพันธ์ ข่าว/ อรอุมา ชื่อม้วน/
กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เตือนประชาชนถึงการแพร่ระบาดของโรคเลปโตสไปโรสิส ในเขตจังหวัดมหาสารคาม ที่มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น
กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงการระบาดของโรคเลปโตสไปโรฅซีส หรือโรคฉี่หนู ช่วงฤดูฝนในปีนี้ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 29 กันยายน 2553 พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 32 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน คิดเป็นอัตราป่วย 3.35 ต่อประชากรแสนคน พื้นที่เกิดโรคแล้ว 11 อำเภอ อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย 13 คน อำเภอบรบือ 6 คน และอำเภอนาเชือก 3 คน ส่วนอำเภอที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วย คืออำเภอโกสุมพืสัยและอำเภอกุดรัง แต่แนวโน้มการระบาดของโรคคาดว่าจะพบผู้ป่วยมากขึ้น
โรคเลปโตสไปโรซีส หรือโรคฉี่หนู เป็นโรคที่เกิดจากการสัมผัสปัสสาวะสัตย์ที่ติดเชือโรคเลปโตไปรา ได้แก่ วัว หนู หมู หมา แพะ แกะ เชื้อนี้จะปะปนอยู่ตามแหล่งน้ำที่เป็นน้ำนิ่ง หรือหนองน้ำที่เป็นหญ้าปกคลุม รวมถึงดินที่ชื้นและโคลน เมื่อคนลงไปแช่น้ำหรือสัมผัสกับบริเวณที่มีเชื้อโรค เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายตามผิวหนัง ตามรอบแตกรอยขีดข่วน รวมทั้งเยื่อบุตา ปาก จมูก คนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ บางคนอาการรุนแรงมาก ผู้ป่วยตัวเหลือง ตาเหลือง ไอ หรือถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะไม่ออก ซึ่งจะรักษาได้ยากมากและอาจเสียชีวิตได้เนื่องจากไตวาย
ส่วนการป้องกันตนเองจากโรคทำได้โดย การสวมรองเท้าบู๊ท ก่อนออกสัมผัสกับโคลนหรือพื้นที่ชื้นแฉะมีน้ำขัง และเมื่อกลับมาถึงบ้านควรรีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาดทันที กินอาหารที่สะอาดปรุงสุขใหม่ๆ ภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำต้องปิดฝามิดชิด ที่อยู่อาศัยและบริเวณบ้านต้องจัดให้สะอาด มีการกำจัดขยะให้ถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ของหนู ในส่วนของผู้ป่วย หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะและเจ็บปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณโคนขาและน่อง ภายหลังที่สัมผัสสัตว์หรือลุยน้ำย่ำโคลน 1 ถึง 2 สัปดาห์ ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน ถ้าช้าอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น