ข่าว/ เตือนภัยน้ำท่วม 23 ก.ย. 53
ภาพ/ กมลพันธ์ ข่าว/ อรอุมา ชื่อม้วน/
จังหวัดมหาสารคามประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 7 อำเภอ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากพื้นที่การเกษตรและสิ่งสาธารณประโยชน์ชำรุดเสียหาย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศตามฤดูกาล
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2553 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัย ของเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ที่เกิดจากน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำชี เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงยืน 2,281 ครัวเรือน อำเภอโกสุมพิสัย 9,085 ครัวเรือน อำเภอกันทรวิชัย 2,235 ครัวเรือน และอำเภอเมืองมหาสารคาม 2,284 ครัวเรือน
ส่วนสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ทางจังหวัดมหาสารคามได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ 7 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบและมีความเสียหาย คือ อำเภอเมืองมหาสารคาม ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 51 หมู่บ้าน ราษฏรประสบภัย 2,785 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 10,300 ไร่ ถนนเสียหาย 21 สาย อำเภอโกสุมพิสัย ได้รับผลกระทบ 9 ตำบล 83 หมู่บ้าน ราษฏรประสบภัย 4,966 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 9,357 ไร่ ถนนเสียหาย 35 สาย คอสะพาน 3 แห่ง ฝาย 1 แห่ง อำเภอกุดรัง ได้รับผลกระทบ 1 ตำบล 6 หมู่บ้าน ราษฏรประสบภัย 24 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 9 ไร่ อำเภอเชียงยืน ได้รับผลกระทบ 8 ตำบล 114 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 12,266 ไร่ ถนนเสียหาย 83 สาย อำเภอกันทรวิชัย ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 112 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 6,050 ไร่ ถนนเสียหาย 36 สาย อำเภอนาเชือก ได้รับผลกระทบ 10 ตำบล 145 หมู่บ้าน ราษฏรประสบภัย 11,445 ครัวเรือน 32,150 คน และอำเภอบรบือ ได้รับผลกระทบ 12ตำบล 119 หมู่บ้าน ราษฏรประสบภัย 19,062 ครัวเรือน
ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ได้นำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้องขอ คืออำเภอเชียงยืน ตำบลเหล่าบัวบาน จำนวน 4 ลำ อำเภอกันทรวิชัย ตำบลมะค่า จำนวน 3 ลำ อำเภอเมืองมหาสารคาม ที่ตำบลท่าตูม จำนวน 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ สนับสนุนถุงยังชีพ จำนวน 50 ถุง และโครงการชลประทานมหาสารคาม สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง
นายสมภพ รัตนะวงศะวัติ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ในช่วงนี้ว่า ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง เพราะในแหล่งน้ำแต่ละที่ ปริมาณน้ำได้เพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวัง และคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เตรียมการรับมือได้ทัน ส่วนทางหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ ได้เตรียมอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนของจังหวัด และตามอำเภอต่างๆ
สัมภาษณ์...สมภพ รัตนะวงศะวัติ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น